กราโนล่าที่รักของนักเดินทางไกลและผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งอยู่บ่อยๆ แน่นอนว่าการมีสุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ แต่หาอาหารที่กินแล้วมีสุขภาพที่ดีได้คุณสามารถหาเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพตามซุปเปอร์มาร์เก็ต และสินค้าที่มีคำว่า “บริสุทธิ์” และ “ธรรมชาติ” ติดอยู่บนฉลาก ฟังดูง่ายดีใช่ไหมคะ แล้วกราโนล่าดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่? แน่นอนมันดีต่อสุขภาพ แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็มีความแตกต่างกันออกไปของส่วนผสมและแล้วเราจะรู้ด้ยังไงว่าอาหารที่เรากำลังกินอยู่นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่ นี่คือสิ่งที่นักโภชนาการบอกในสิ่งคุณควรรู้เกี่ยวกับกราโนล่าก่อนที่จะเลือกมันเป็นของโปรด

กราโนล่าทำมาจากอะไร?

ไม่มีสูตรมาตรฐานตายตัวสำหรับการทำกราโนล่าดังนั้นมันจะดีต่อสุขภาพหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและวิธีการผลิต นักโภชนาการสหรัฐอเมริกากล่าวว่า กราโนล่าทำจากข้าวโอ๊ตทั้งเมล็ด ถั่ว เมล็ดพืช และผลไม้แห้ง ซึ่งข้าวโอ๊ตนั้นเต็มไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ในขณะที่ถั่วให้ไขมันที่ดีต่อสุขภาพและผลไม้แห้งมีโพแทสเซียมอิเล็กโทรไลต์ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการทางร่างกายรวมถึงการทำงานของเซลล์และการหดตัวของกล้ามเนื้อด้วย

คุณควรมองหาอะไรในกราโนล่า

ขั้นแรกดูรายการส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมของสารให้ความหวานมากน้อยแค่ไหนรวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงสารให้ความหวานสังเคราะห์ จำพวกน้ำเชื่อมข้าวโพด เดกซ์โทรส ฟรุกโตส น้ำเชื่อมข้าวโพดฟรักโทสสูง (HFCS) น้ำผึ้ง แลคโตส มอลต์ไซรัป มอลโตส จากนั้นมองหากราโนล่าที่ไม่มีไขมันทรานส์และไขมันต่ำ ในส่วนที่เกินไขมันอิ่มตัว

ทานกราโนล่าให้ดีต่อสุขภาพอย่างไร

ก็ต้องทานในขนาดที่เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องกายเราลองมาดูวิธีคำนวณการเผาผลาญพลังงาน Basal Metabolic Rate (BMR) กันค่ะ

สำหรับผู้ชาย : BMR = 66 + (13.7 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (5 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (6.8 x อายุ)
สำหรับผู้หญิง : BMR = 665 + (9.6 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (1.8 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (4.7 x อายุ)
เมื่อได้ค่า BMR ก็นำมาคูณกับพฤติกรรมที่เราใช้ในชีวิตประจำวันดังนี้
นั่งทำงานอยู่กับที่ และไม่ได้ออกกำลังกายเลย = BMR x 1.2
-ออกกำลังกายเล็กน้อย ประมาณอาทิตย์ละ 1-3 วัน = BMR x 1.375
-ออกกำลังกายปานกลาง ประมาณอาทิตย์ละ 3-5 วัน = BMR x 1.55
-ออกกำลังกายอย่างหนัก ประมาณอาทิตย์ละ 6-7 วัน = BMR x 1.725
-ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนักทุกวันเช้าเย็น = BMR x 1.9

เมื่อได้ผลมาก็ลองนำมาวางแผนในการกิน และอาจลองเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการโดยการทานคู่กับนมหรือโยเกิร์ตแล้วเติมเบอร์รี่ กล้วย เมล็ดฟักทองจำนวนประมาณหยิบมือหนึ่งเข้าไปด้วยก็ได้